ER WILL WEAR CAP III : THE LAST CRUISER

หรือ กว่าจะสวมหมวกแก๊ป III นั่นเอง

                                 by  Wacharin Wichiramala

ภายใต้ความกดดัน 1 บรรยากาศ  ของทุกวัน
ลมร้อน 7 วืด  พาดผ่านร่องขา
ใบไม้แห้งกรอบ 12 ใบ  ขยับไหว ๆ
ลูกชิ้นปิ้ง ไม้ละ 2 บาท  จับกลุ่มนินทา
ขี้หมาแห้ง 5 ก้อน ที่ตัดกับผืนหญ้าเขียวอื๋อ  หยอกล้อกัน สนุกสนาน ยิ้มแก้มตุ่ย

รองเท้าแตะเน่า ๆ สีฟ้าซีด 2 ข้าง ที่ผลัดกันเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ
พาร่างเท่ ๆ  กับเสื้อผ้าเดิม ๆ  มุ่งสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
นับแต่ก้าวแรกที่วางบนอาณาเขตของ สสวท.  ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความอบอุ่นอบอวล
ของสายลมที่พัดออกมาจากง่ามก้น
ขึ้นไปเจอเอกกำลังทำแผ่นพับที่อยู่อยู่(ซึ่งทำมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว) ก็เข้าไปช่วย
นิดหน่อย งานก็เสร็จ
เด็ก ๆ คงยังหลับสบาย อยู่ในห้องบรรยาย  ไม่รู้ชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง
น้อง ๆ ก็คงจะฝันถึงแผนที่จะนำมาต้อนเละเด็ก ๆ ในช่วงบ่ายนี้
ปีนี้มาแรง  เด็ก ๆ เริ่มก่อน  ด้วยการจุดดอกไม้ธูปเทียน บูชาวิญญาณพี่ ๆ
แล้วเหยื่อ ๆ ก็ทยอยกันขึ้นไปบนลานทมิฬ  เพื่อเริ่มต้นพิธี
"ข้าพเจ้า  ขอสัญญาว่า  . . .
แล้วเหยื่อ ๆ ก็ดื่มน้ำสาบานกันอิ่มหนำสำราญ บานตะไท

ปีนี้ก็ไม่มีหน้าที่ตายตัวนัก  นำกล่าวสาบานจบ ก็เที่ยวแกล้งเด็ก ๆ ไปเรื่อย
แอบผูกติดกันบ้างหละ  แอบจั๊กจี้บ้างหละ  ให้ถือกล่องไม้ขีดเก่า ๆ บ้างหละ
แล้วบอกว่ามีตัวอะไรอยู่ข้างใน ถือดี ๆ เดี๋ยววิ่งเข้าเสื้อผ้าไม่รู้ด้วยนะ
ต่าง ๆ นานา  แล้วแต่จะคิดสร้างสรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาได้
แล้วก็ลงไปพูดคุยกับเด็ก ๆ นิดหน่อย  ซึ่งเข้ากันได้เร็วมาก  แค่ให้ดื่มน้ำจิ๊ดนึง
ก็คุยจ้อเชียว
พอตกดึก กลับไม่ยอมพูดเลย  แปลกจัง
คืนต่อมาก็พูดไม่ออกอีก  ไม่เข้าใจเลย เด็กนี่
หรือว่าพรุ่งนี้จะต้องไปร่อนเร่ระยะยาวนอกสถานที่  และก็มีหลายคนที่บาดเจ็บ
น่าเป็นห่วงเหมือนกัน   โดยเฉพาะนก  ถ้าเกิดเป็นอะไรไปละก็  พวกเราคง
เสียดายแย่เลย  ลุงเฉียบก็คงต้องลำบากตรากหน้าไปเอาคันใหม่มา  เด็ก ๆ ก็
คงต้องไปสาย  เพื่อน ๆ ต้องล้อแน่ ๆ เลย

สายแล้ว
รีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินทางสู่ สสวท.อีกครั้ง  ด้วยเสื้อตัวใหม่  นอกนั้นเก่าหมด
(ซักแล้ว)
ก็ทันดูรายการรายงานการฝึกงานตั้งแต่กลุ่มเถงกับนกเป็นต้นไป
ก็รู้สึกดี  หลับสบาย ๆ กันดี  สงสัยจะนอนดึกกัน  น้อง ๆ ก็คงทำรายงาน เตรียม
แผ่นใส  เด็ก ๆ ก็คงนั่งดู  แหย่โน่นนิด แหย่นี่หน่อย
เหมือนปีที่ผ่านมา  เป็นความสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน  ที่มีน้อง ๆ มานั่ง
ตุ้มตุ้ยอยู่ใกล้ ๆ  ช่วยขีดเขียนแต่งแต้ม  ชวนคุยเอื่อย ๆ จนพี่ ๆ หลับคาที่  หรือ
ป้อนขนมให้เคี้ยวเอื้อง แก้ง่วงนอน

หกโมงเย็น ก็เริ่มงานสังสรรค์อำลากัน
จบจากรับประทานอาหารเย็น ก็เข็นโต๊ะเก็บ  เพื่อเริ่มการแสดงของแต่ละศูนย์
ประเดิมด้วยละครปริศนา ที่อุตส่าห์ฝึกซ้อมกันมาแรมชั่วโมง ของชาวสามเสนฯ
ต่อด้วยละครอีสาน ๆ เรื่อง "ลูกอีสาน" ของ 5 ชายแก่นนครฯ  ถึงเราจะไม่ใช่
คนอีสาน ไม่ได้ประสบความทุกยากอันแสนสาหัสอย่างคนอีสาน  แต่เราก็รู้ว่าไอ้นิค
มันพูดไม่ชัดแม้กระทั่งภาษาอีสาน
ศรีบุณฯเปิดฉากด้วยมาดเท่ ๆ ของไม้พลอง กับมาดตุ้ยนุ้ยของนก  และก็มีการเต้น
แอโรบิคของคนอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน กับการเต้นแร้งเต้นกาของโอม
ขึงผ้าอยู่สักครู่ ก็ปิดไฟ  เพื่อชมหมึกเดี่ยวหนังตะลุงของหาดใหญ่ฯ ให้เราชม
ซึ่งแทรกด้วยโฆษณาสุดเจ็บปวดของแมน
เปิดไฟมาพบกับละครเวทีของยุพราชฯ  กับบทบาทที่แสนจะบีบคั้นอารมณ์ของป้อม
จนพวกผู้ชายรู้สึกไม่ค่อยสบายใจไปตาม ๆ กัน
จบด้วยการร่ายรำของบดินทรฯ  กับมาดหดจู๋ของใหญ่  เสน่ห์รัญจวนใจของโอ๋
ซึ่งชนะใจกรรมการเพราะใช้หุ่นยนต์ร่วมรำได้ด้วย

จากนั้นพี่ใหญ่ก็พาร่วมขับขานบทเพลงรวมจิตใจของพวกเรา ให้แน่วแน่ มั่นคง อบอุ่น
และเต็มไปด้วยพลัง
แล้วเราก็มาผูกข้อมือน้องน้อยอีกครั้ง  ด้วยความรู้สึกรักและเอ็นดูมากกว่าเก่า

มองเข้าไปในดวงตาอันไร้เดียงสา  แต่ทว่าเข้มแข็ง
สิ่งเหล่านี้แหละ  ที่ทำให้พี่ ๆ ยิ้มอย่างเป็นสุข  และรักที่จะมีชีวิตมากขึ้น

ยกพวกเข้ายึดห้องอาหารได้สำเร็จ ก็มาร่วมกิจกรรมกันต่อ
ตอนท้ายก็สั่งเสียกันเรื่อยเปื่อย เฉื่อยแฉะ และไปต่อที่ห้องพัก

มันช่างยากเหลือเกิน ที่จะข่มตาลง    จะหลับได้ยังไง ถือไพ่เต็มมือ
เราได้แต่นั่งมองตากัน             ตาใครทิ้งแล้ววะเนี่ย
เหมือนจะบอกอะไร               โกหกหรือเปล่า ใบนี้  เดี๋ยวเปิดซะเลย


กับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง
ทุกคนคงรู้สึก
แต่ก็พยายามเล่นอะไร ๆ ไปเรื่อย ๆ
ตลอดเวลาที่เหลืออยู่

ณ ที่นี่
เราจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
จับมือกันไป
บนเส้นทางสายนี้  ที่เราเลือก
จนกว่าจะถึงที่หมาย

บนเรือลาดตระเวนลำสุดท้าย
หนทางยังอีกยาวไกลนัก
และเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม
ขอให้พลังจงอยู่กับเธอ
สู้ต่อไปเถิด
พสวท.ทั้งหลาย
อย่าได้เฟอะฟะ
นมมะลิขอเอาใจช่วยอย่างสุดขั้วกระดูกตูด