ยุทธการกระดูกตูด

(ต่อจาก "ยุทธการแก้ขัด")

ไออุ่นจากปุย ๆ ของธูปฤษีในบรรยากาศ ทำให้พวกเขายิ้มออกมาด้วยความสบายใจ
สุดขั้วกระดูกตูด

ในยามสายัญรัญจวน ณ ทุ่งกว้างอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี)
คงไม่มีผู้ใดหรอกจะ ที่จะรู้ว่า ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 8 คน(แปดคน คนละสองขา)
และจะมีจุดประสงค์ประการใดนั้น  แม้แต่ผมก็ยังไม่รู้จะเขียนยังไงดีเลย

ผมรู้สึกข้าวของที่อุตส่าห์ไม่จัดให้เป็นระเบียบ ถูกวางอยู่อย่างระเกะระกะ
เป็นระเบียบมากขึ้นกว่าเดิม
ผมวิ่งไปสำรวจประตูและหน้าต่างทั้งหมด  ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด
ความคิดทั้งหมดของผมต้องสะดุดลง เมื่อมีเสียงประหลาดโหยหวนออกมาจะห้องน้ำ
ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว  รีบเอื้อมมือไปหยิบมีดบนโต๊ะทำงาน
แล้วความเงียบสงัดจับใจก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ตามด้วยเสียงคำรามอันน่าสะพึงกลัว  จนผมเข่าอ่อนทันที
ประตูห้องน้ำเปิดออกมา พร้อมกับมือประหลาดที่ยืดมาจับขาผม
ผมสบัดขาอย่างแรง  แต่มันก็ยังกำแน่น และดึงเข้าไปในห้องน้ำ
พอรวบรวมสติได้ ผมก็เอื้อมมือไปดึงประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
หวังจะขยี้มือนรกนี้ให้แหลกไปเลย
เก้าอี้เอนไปข้างหลัง  ขาที่เกี่ยวกับโต๊ะทำงานจึงดึงโต๊ะล้มลงมา
พอตาแจ้ง ก็รีบเก็บของขึ้นหมักบนโต๊ะทำงาน
นับเป็นการดีเหมือนกัน  จะได้เขียนรายงานต่อ  และอีกอย่าง โต๊ะก็สะอาดขึ้น
จากเดิมที่อุดมไปด้วยคุณค่าทรงอาหารของเศษขนมนานับชนิด
มีเศษกระดาษใบหนึ่งเขียนว่า "โทรตอบเอก เรื่อง SWEET COLD FUSION"

กลับจากโทรศัพท์ ก็ต้องตะลึง เมื่อข้าวของที่อุตส่าห์ไม่จัดให้เป็นระเบียบ  ถูกวาง
อยู่อย่างระเกะระกะ เป็นระเบียบมากขึ้นกว่าเดิม
ผมวิ่งไปสำรวจประตูและหน้าต่างทั้งหมด  ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด
ความคิดทั้งหมดของผมต้องสะดุดลง เมื่อมีเสียงประหลาดดังออกมาจะห้องน้ำ
ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว  รีบเอื้อมมือไปหยิบมีดบนโต๊ะทำงาน
แล้วความเงียบสงัดจับใจก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ผมตัดสินใจถีบประตูเต็มแรง  พร้อมกับยกมีดขึ้นมาป้องกันตัว
ทำให้จิ้งจก 2 ตัวที่กำลังทะเลาะกัน ตกใจเตลิดไป
เมื่อไปที่โต๊ะทำงาน ก็พบกระดาษใบหนึ่ง
เขียนว่า "Super Cold Fusion เป็นของฉันแล้ว"

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมรีบเดินไปที่ห้องพสวท. เพื่อบอกข่าวร้ายกับน้อง ๆ
"มีใครอยู่บ้างไหม" ผมตะโกนถาม
"มีมั้ง" เสียงแปลก ๆ แต่คุ้น ๆ ตอบออกมา
"ทำไมไม่เปิดไฟกันล่ะ"
"ก็อยากมีอะไรให้แปลกใจนิดหน่อย"
ทันทีที่ผมเอื้อมมือไปปิดวงจรหลอดฟลูออเรสเซนท์
ห้องก็สว่างขึ้น
ทำให้เห็นกล้ามเนื้อคุ้น ๆ โตขึ้นอย่างรวดเร็ว
พลั้ก ! ! * * * *
ทำให้เห็นดวงดาวที่ไม่ค่อยคุ้น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
ก่อนที่จะล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง จนขี้หักคาก้น
แดง(สมุนโกงเจ้าเก่าจากยุทธการแก้ขัด)เอามือปัด ๆ หัวไหล่  แล้วเบะปาก
น้ำตาร่วงอย่างน่าสมเพช
ผมคายเนื้อก้อนใหญ่ออกจากปาก  แล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
"อะไรกัน โดนอย่างนี้ยังลุกไหวอีก" เอ(ตัวงอเจ้าเก่าจากยุทธการแก้ขัด)อุทาน
ด้วยความไม่ตกใจ
"คงไม่ต้องตอบนะ" ผม(พระเอกและผู้กำกับเจ้าเก่าจากยุทธการแก้ขัด)พูดออกมา
ด้วยใบหน้าเชื่อมั่น ว่าไม่ผิด เพราะมั่วบทเองกะมือ
"ลูกน้องลุยเลย" เอสั่ง
โอมลูกของบี(บีน้องของเอ)ถลกขากางเกงทำท่าลุยน้ำมาหาผม
"ทำไงต่อ" โอมหันมาถามเอ ซึ่งกัดฟันกรอด ๆ อยู่ข้างหลัง
"ก็ฆ่ามันซิโว้ย" เอตะโกนหัวเสีย
โอมหันขวับมาทางผม  ควักมีดออกมาด้วยดวงตาโหดเหี้ยม  เดินเข้ามาหาผม
แล้วเลยออกไปนอกห้อง
สักครู่ก็กลับมาพร้อมหัวมันต้ม  ยกมีดขึ้นสับจนเละ แล้วส่งให้เถงกินอย่างเอร็ดอร่อย
"ผมฆ่ามันแล้ว  ทำไงต่อ" โอมบอกเอด้วยความภาคภูมิใจ และทำท่าพร้อมรับงานต่อ
เอหน้าแดงก่ำกำหมัดแน่น  นับ 1 ถึง 10  ตามด้วยแผ่เมตตา 3 จบ
"แน่จริงก็ปล่อยเด็ก ๆ  แล้วมาสู้กันตัวต่อตัวซิ่" ผมท้าทาย
"หงึก ๆ" เสียงเด็ก ๆ บดินทรฯพยักหน้าเห็นด้วย
"ก็ได้" เอตอบด้วยเสียงอันทรงพลัง  ลุกขึ้นมา  เกาตูด แล้วนั่งต่อ
"สามเสนฯ อัดมัน" เอตะโกนเต็มเสียง
โอมวิ่งออกไปนอกห้อง  สักครู่ก็หอบมันต้มเข้ามา  แจกชาวสามเสนฯ  นั่งอัดกัน
อย่างสนุกสนาน  ออกมาเป็นหมีบ้างหละ หมูบ้างหละ น่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดู
ทิ้งเอให้นั่งจ๋องอยู่บนเก้าอี้อย่างหมดอะไรตายอยาก
"ยังไง รายงานก็อยู่ในกำมือเราแล้ว  กลับดีกว่า" เอพูดเย้ย ๆ มาทางผม
ผมหลบทัน แล้วสวนกลับ "เอ อย่าเอาไปนะ  ชาวบ้านเค้าจะเดือดร้อน"
เอติดเครื่องรถจักรยาน
"เมื่อพูดไม่ฟัง ก็" ผมพูดละไว้ในฐานที่เด็กฉลาดเข้าใจ  แต่ลืมไปว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้
"เมื่อพูดไม่ฟัง ก็ต้องใช้กำลังละ" ผมพูดแล้วก็วิ่งเข้าไปหาเอ
เอยิ้ม แล้วควักโลหะสองชิ้นออกมาจากกระเป๋า
ชิ้ง . . .
"โอ้ย . . . " ผมร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด  หมดแรงล้มลงไปกองกับพื้น
"ช้างเอ๋ย  อย่าหวังจะชนะเราเลย  จำไม่ได้หรือไง  คุณครูสอนไว้ตั้งแต่สมัย
เด็ก ๆ แล้ว  ฉ.ฉิ่งตีดัง ช.ช้างวิ่งหนี  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า "

ตอนเย็น ๆ  ใกล้ ๆ คลองประปา
ในห้องพสวท.ของสามเสนฯ
"วันนี้เป็นวันผมยันดีอย่างยิ่ง  งานของเราสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดี  ด้วยฝีมือของ
พวกเราเอง" เอ ประธานในที่ประชุม กล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง  มองหน้าสมาชิก
ที่ยิ้มแป้น  แล้วพร่ำต่อ
"ด้วยฝีมือการสืบความรับ ของ โก้ แทน ปูและจือ  ฝีมือการจรกรรมเอกสาร ของ
ชื่อน้อง ๆ ม.4  ฝีมือการเข้ายึดห้อง ของ โอม แดงและเถง  โดยเฉพาะ
ฝีมือการวางแผนของผม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของการปฏิบัติการครั้งนี้"
เอยิ้ม  มองหน้าสมาชิก ที่ส่ายไปมา  แล้วเพรื่อต่อ
"ยังไงก็เถอะ  เรามาดูงานวิจัยที่ได้มากันดีกว่า" เอมองหน้าโอม
"เท่าที่ดู  ผมแน่ใจว่ามันเป็นสูตรอาหารเพิ่มพลัง" โอม หมอดูแห่งสามเสนฯ ลุกขึ้น
เดาส่งเดชตามเคย  แต่ก็ทำให้ทุกคนตาตื่นขึ้นมาได้ เพราะดันลืมรูดซิป
"ตอนนี้ผมผสมมันเรียบร้อยแล้ว  เราไปกันเลยดีกว่าครับ" เถงพูดจบ ก็ลุกขึ้นไปหลัง
ห้องคนเดียว  อุ้มหม้อใบใหญ่มาวางกลางโต๊ะประชุม
คืนนั้นเอง
เสียงช้อนกระทบหม้อเคล้ากับเสียงซดน้ำซุป ดังออกมาจากห้องพสวท.ของสามเสนฯ
อย่างไม่ขาดสาย

5 วันต่อมา
"ช้าง Super Cold Fusion คืออะไรกันแน่วะ"
เสียงเอดังอ่อย ๆ ออกมาจากโทรศัพท์
"ทีนี้ฟังให้ดีนะ  เดิมทีน่ะ เราคิดจะทำอาหารสำรองไว้สำหรับกินในห้องพสวท.
เวลาทำงานดึก ๆ หรือวันหยุด  ก็ได้ความคิดว่าควรเป็นของเย็น ๆ และหวาน ๆ
เลยทำไอติม Sweet Cold Fusion  ไม่ใช่ Super Cold Fusion ซักหน่อย
พอทำเสร็จ ก็บึ่งไปสมาคมนักชิมและประเมิณคุณค่าอาหาร  พวกมันกินกันคนละช้อน
เดียว ก็วางช้อนแล้วยกนิ้วกันใหญ่  เราก็ดีใจ นึกว่าอร่อยเลิศทะลุฟ้าดิน
ที่ไหนได้  พอดูดี ๆ  ถึงได้รู้ ว่า มัน ยกนิ้วกลาง"

หลายวันที่ผ่านมา
เสียงโอดครวญเคล้ากับเสียงชักโครก ดังออกมาจากห้องพสวท.ของสามเสนฯ
อย่างไม่ขาดสาย